ฟิลิปปินส์หวังว่าจะออกจากรายการสีเทา FATF ภายในสิ้นปี

ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังพุ่งสูงเมื่อออกจากออก รายการสีเทา FATF ปีนี้ด้วยเหตุนี้ประธานาหัวหน้าของประเทศ เฟอร์ดินานด์ อาร์มาร์โคส จูเนียร์ ได้ขอให้หน่วยงานรัฐบาลทั้งหมดแก้ไขข้อบกพร่องด้านกฎกฎระเบียบที่เจาะจงโดยคณะปฏิบัติการทางการเงิน

ตามรายงานคำสั่งของ Marcos ได้รับการสื่อสารกับหน่วยงานในระหว่างการประชุมเมื่อเร็วๆนี้ในระหว่างการประชุมครั้งนั้น ประธานาธิบดีเน้นถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจของการออกจากรายการสีเทาสำหรับการอ้างอิง เดิมฟิลิปปินส์ต้องโน้มน้าวให้ FATF ว่าควรจะลบออกจากรายการสีเทาภายในเดือนมกราคม 2023อย่างไรก็ตามระยะเวลานี้ได้รับการขยายออกไป 12 เดือนทำให้ประเทศมีเวลามากขึ้นในการแก้ไขข้อขาดตกบกพร่อง

แมทธิวเดวิดผู้อำนวยการบริหารของ

สภาต่อต้านการฟอกเงิน สำนักเลขาธิการ (AMLC) แสดงความความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่าประธานาธิบดีได้”ย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาล” ในการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เจาะจงโดย FATF

เดวิดยืนยันว่าประเทศหวังว่าจะจัดการกับประเด็นทั้งหมดที่ทำโดยคณะทำงานในปี 2024 และกระตุ้นให้ประเทศออกจากรายการสีเทาภายในสิ้นปีนี้ตามที่เขากล่าว 10 จาก 18 ข้อผิดพลาด ที่ระบุโดย FATF ได้รับการแก้ไขแล้วส่วนที่เหลือแปดส่วนกำลังได้รับการแก้ไขหรือยังไม่ได้กล่าวถึง

เดวิดยอมรับว่าฟิลิปปินส์ยังคงต้องจัดการกับเงินทุนการก่อการร้ายอย่างเหมาะสม

ฟิลิปปินส์มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการออก

แม้ว่าจะมีงานอีกมากที่ต้องทำ แต่เดวิดกล่าวว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์มั่นใจว่ามันอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องตามที่เขากล่าวว่าประธานาธิบดีพอใจกับงานของ AMLC มาก

ในการสัมภาษณ์ของเขากับที่ทำการข่าวฟิลิปปินส์ เดวิดกล่าวว่า:

เป้าหมายของเราคือการออกจากรายการสีเทาในที่สุดส่งผลกระทบจากการอยู่ในรายการสีเทาด้วยเหตุว่ายิ่งพวกเราอยู่ในรายการสีเทานานเท่าไหร่ความเป็นไปได้ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นหรือความเสี่ยงที่พวกเราจะเข้าสู่บัญชีดำก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

แมทธิว เดวิด ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ AMLC

ในเดือนตุลาคมรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เผยแพร่หนังสือบันทึกข้อตกลงฉบับที่ 37 สั่งให้หน่วยงานรัฐบาล 44 แห่งทำงานเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง 18 ประการที่เจาะจงเอาไว้ในรายงานของ FATFด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งรวมทั้ง PAGCOR จึงจำเป็นต้องต้องเพิ่มความพยายาม AML

สอดคล้องกับความพยายามในการเสริมสร้างกฎระเบียบปฏิบัติ ฟิลิปปินส์ยังร่วมมือกับจีนเพื่อปะทะกับผู้ประกอบการนอกริมตลิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศสิ่งนี้เป็นไปตามการดำเนินการร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศที่ส่งผลให้ประชากรจีน 400 คนส่งกลับประเทศ